Knowledge Management คืออะไร? การจัดการความรู้ สู่ความเข้าใจและการตัดสินใจที่ถูกต้อง

การจัดการความรู้ (KM: Knowledge Management)

Knowledge Management (KM) หรือ การจัดการความรู้ เป็นหนึ่งในแนวคิดที่สำคัญและกำลังเติบโตขององค์กรในยุคที่เต็มไปด้วยข้อมูลและความรู้ในปัจจุบัน

การจัดการความรู้ หมายถึง การรวบรวมและจัดระบบข้อมูลและความรู้เพื่อให้องค์กรสามารถนำข้อมูลและความรู้นี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดำเนินกิจกรรมและการตัดสินใจต่าง ๆ ในองค์กร

ประเภทของ การจัดการความรู้ (KM)

ในรากฐานของ Knowledge Management (KM) ความรู้ถูกแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักๆ ได้แก่ Explicit Knowledge (ความรู้โดยชัดแจ้ง) และ Tacit Knowledge (ความรู้แบบไม่ชัดแจ้ง) โดยมีรายละเอียดที่แตกต่างกันดังนี้

การจัดการความรู้

Explicit Knowledge (ความรู้โดยชัดแจ้ง)

  • Explicit Knowledge คือ ความรู้ที่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนและถูกเขียนลงในเอกสาร หนังสือ หรือฐานข้อมูล ที่สามารถแบ่งปันและส่งเสริมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ตัวอย่างของ Explicit Knowledge รวมถึงเอกสารประกอบการทำงาน เอกสารข้อมูลขององค์กร คู่มือการใช้งาน และข้อมูลที่สามารถจัดเก็บในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
  • การแบ่งปัน Explicit Knowledge ทำได้อย่างสะดวก และการค้นหาและนำความรู้นี้มาใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ง่าย

Tacit Knowledge (ความรู้แบบไม่ชัดแจ้ง)

  • Tacit Knowledge คือ ความรู้ที่ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน และมักอยู่ในความรู้และประสบการณ์ทางบุคคลของบุคคลหรือกลุ่มบุคคล
  • ตัวอย่างของ Tacit Knowledge รวมถึงความสามารถในการแก้ปัญหาโดยใช้ประสบการณ์ส่วนตัว ความสามารถในการสื่อสารและสร้างความเข้าใจกับผู้อื่น หรือความรู้ทางทักษะที่ยากที่จะถูกเขียนลงในเอกสาร
  • การแบ่งปัน Tacit Knowledge สามารถเริ่มได้จากการสนับสนุนการสร้างพื้นที่สำหรับการพบปะ และแบ่งปันความรู้ในองค์กร เช่น การเรียนรู้ระหว่างบุคคลและการสร้างบรรยากาศที่สนับสนุนการแบ่งปันประสบการณ์

การจัดการ Explicit Knowledge มักใช้เทคโนโลยีและฐานข้อมูลเพื่อเก็บรักษาและแบ่งปันข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ในทางกลับกัน Tacit Knowledge เน้นการสร้างพื้นที่สำหรับการพบปะและแบ่งปันความรู้ รวมถึงการสนับสนุนการสร้างความรู้ใหม่และสนับสนุนการสื่อสารระหว่างบุคคลเป็นสิ่งสำคัญในการบริหารความรู้แบบ Tacit ในองค์กร

ความสำคัญของ การจัดการความรู้ Knowledge Management

  1. เพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ: การจัดการความรู้ช่วยให้องค์กรสามารถตัดสินใจอย่างมีเสถียรภาพและมั่นใจได้มากขึ้น ด้วยข้อมูลและความรู้ที่ถูกจัดเก็บและเรียกใช้ได้อย่างง่าย
  2. สร้างความรู้และนวัตกรรม: การจัดการความรู้ส่งเสริมการสร้างความรู้ใหม่และนวัตกรรมในองค์กร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้า
  3. ลดความสูญเสียของความรู้: การจัดการความรู้ช่วยลดความสูญเสียของความรู้ที่เกิดจากการออกจากองค์กรหรือการเกษียณอายุของพนักงาน
  4. สนับสนุนการเรียนรู้องค์กร: Knowledge Management ส่งเสริมการเรียนรู้องค์กรโดยสร้างพื้นที่สำหรับการแบ่งปันความรู้และการพัฒนาพนักงาน
  5. จัดการความรู้ในยุคดิจิทัล: การจัดการความรู้เป็นสำคัญในการทำความเข้าใจข้อมูลในยุคดิจิทัล โดยช่วยในการค้นหาและเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญ

ในสังคมที่เติบโตอย่างรวดเร็วและเต็มไปด้วยข้อมูลในปัจจุบัน, Knowledge Management เป็นองค์กรและการบริหารทรัพยากรสูงสุดที่องค์กรควรมีเพื่อให้สามารถใช้ความรู้และข้อมูลในการตัดสินใจและสร้างความเป็นไปได้ในอนาคต ด้วยการใช้พื้นฐานของ Knowledge Management, องค์กรสามารถเติบโตและปรับตัวในสภาวะตลอดเวลาที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกที่พลุ่งพุ่งของเทคโนโลยีและข้อมูล

ตัวอย่างสถานการณ์ในองค์กรที่ การจัดการความรู้ ช่วยแก้ปัญหาได้

  1. การสูญเสียความรู้จากการลาออก องค์กรเสี่ยงต่อการสูญเสียความรู้ที่มีคุณค่า เมื่อพนักงานลาออกหรือเปลี่ยนงาน โดยการใช้ KM ในการเก็บรักษาความรู้และประสบการณ์ของพนักงานที่เพิ่งลาออกหรือเปลี่ยนงาน องค์กรสามารถรักษาความรู้นี้เพื่อใช้ในอนาคต
  2. การตัดสินใจที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง องค์กรมีปัญหาในการตัดสินใจที่ไม่ถูกต้องเนื่องจากข้อมูลที่ไม่เพียงพอหรือไม่เพียงเพียงเพียงพอ การใช้ KM ช่วยในการเก็บรักษาและแบ่งปันความรู้ที่สอดคล้องและตรงตามความเป็นจริงเพื่อให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
  3. การสร้างความรู้ใหม่และนวัตกรรม องค์กรต้องการสร้างความรู้ใหม่และนวัตกรรมเพื่อเข้าข้างคู่ค้าและเหนี่ยวนำในตลาด โดยใช้ KM องค์กรสามารถสนับสนุนกระบวนการสร้างความรู้ใหม่และการนวัตกรรมที่เน้นการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนความรู้
  4. การเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาข้อมูล พนักงานมีความยากลำบากในการค้นหาข้อมูลที่ต้องการ โดยใช้ KM องค์กรสามารถจัดระเบียบข้อมูลและความรู้ให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
  5. การรักษาความรู้และประสบการณ์ของพนักงานที่เกษียณอายุ พนักงานที่กำลังจะเกษียณอายุมีความรู้และประสบการณ์ที่มีค่า การใช้ KM ช่วยในการเก็บรักษาความรู้และประสบการณ์เหล่านี้และการแบ่งปันระหว่างพนักงานเกษียณอายุและพนักงานใหม่ ทำให้องค์กรสามารถรักษาความรู้ที่มีค่าและประสบการณ์ที่กำลังจะหายไป
  6. การเพิ่มความสามารถในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในตลาดแห่งการแข่งขัน โดยใช้ KM เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดและลูกค้า องค์กรสามารถปรับใช้และสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ

การบริหารความรู้และข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพด้วย Knowledge Management ช่วยในการแก้ปัญหาเหล่านี้และสร้างความคงทนและความยืดหยุ่นในองค์กรในยุคดิจิทัลที่แลกเปลี่ยนรวดเร็วและเติบโตอย่างรวดเร็ว

การจัดการความรู้ โดยสรุป

ดังนั้น การจัดการความรู้ (KM: Knowledge Management) เป็นกระบวนการที่เกี่ยวกับการบริหารความรู้และข้อมูลในองค์กรเพื่อสร้างความเข้าใจ สร้างความสามารถในการตัดสินใจ และสร้างความเป็นไปได้ที่ยอดเยี่ยม ในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สถานการณ์และประเด็นที่ KM ช่วยแก้ปัญหาได้ประกอบไปด้วยการลาออกของพนักงานที่สามารถสูญเสียความรู้ ปัญหาในการตัดสินใจที่ไม่ถูกต้องเนื่องจากข้อมูลที่ไม่เพียงพอ และความจำเป็นในการสร้างความรู้ใหม่และนวัตกรรมเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

การใช้ KM ช่วยในการบริหารความรู้และข้อมูลในองค์กรช่วยในการลดความสูญเสียของความรู้ พัฒนาการตัดสินใจ และสร้างความเป็นไปได้ที่ยอดเยี่ยม ในทางที่น่าสังเกต KM ช่วยในการสร้างองค์กรที่มีความคงทนและยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงในสภาวะที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในทุกระดับขององค์กร สรุปแล้ว KM มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นขององค์กรในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและที่นี่และระยะยาว

ติดตามคอนเทนท์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ Jahnnoom.com