Present Perfect Tense คืออะไร และใช้ตอนไหน?

Present Perfect คือ?

Present Perfect คือ หนึ่งใน Tense รูปแบบหนึ่งจากทั้งหมด 12 แบบในภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็น Tense ที่มีความซันซ้อนมากขึ้นเล็กน้อย อีกทั้งโครงสร้างที่นำมาใช้ผู้เรียนต้องรู้หลักการใช้ have/has และกริยาช่องที่ 3 (Past Participle) เสียก่อน Present Perfect จึงนิยมเริ่มเรียนตั้งแต่ระดับมัธยมต้นเป็นต้นไป

สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่า Tenses คืออะไร สามารถติดตาม สรุป Tenses ฉบับรวมรัด เข้าใจง่าย ทั้ง 12 แบบ ในภาพรวมก่อนได้เลยครับ

โครงสร้างประโยคของ Present Perfect?


Present Perfect
โครงสร้างประโยคของ Present Perfect Tense

Present Perfect Tense มีโครงสร้างประโยค คือ Subject (S.) หรือประธานของประโยค + have/has + V.3 หรือกริยาช่องที่ 3 (Past Participle) นั่นเอง

โดยมี กฎการเลือกใช้ Verb to have (have/has) คือ

หากประธานของประโยค (Subject) คือ “I, You, We, They” หรือประธาน “พหูพจน์” (Plural) V. to have ที่ใช้คือ “have”
หากประธานของประโยค (Subject) คือ “He, She, It” หรือประธาน “เอกพจน์” (Singular) V. to have ที่ใช้คือ “has”

ในขณะที่ การเติม V.3 หรือกริยาช่องที่ 3 (Past Participle) มีรายละเอียดดังนี้

เนื่องจากกริยามีการผันรูป ได้ 3 ช่อง ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ
กริยาที่ผันแบบปกติ (Regular Verb) คือ กริยาทั่วไปที่เติม -ed ท้ายคำกริยาทั้ง 2 ช่อง ทั้งช่องที่ 2 (Past Simple) และช่องที่ 3  (Past Participle)  และ
กริยาที่ผันแบบไม่ปกติ (Irrregular Verb) คือ กริยาแบบพิเศษที่มีการเปลี่ยนรูปโดยสิ้นเชิง ซึ่งมีกฎการเปลี่ยนรูปดังนี้

  1. คำกริยาที่มีรูปเหมือนกันทั้งสามช่อง
  2. คำกริยาที่ช่องสองกับช่องสามเหมือนกัน
  3. คำกริยาที่ช่องแรกกับช่องสามเหมือนกัน
  4. คำกริยาที่ทั้งสามช่องผันไม่เหมือนกันเลย

ดังนั้น หลังจากวิเคราะห์แล้วว่าประธานเป็นแบบไหน เพื่อเลือกใช้ have/has และกริยาช่องที่ 3 ที่นำมาใช้มีหลักการผันรูปแบบใดแล้ว ก็จะสามารถแต่งประโยคโดยใช้ Present Perfect ได้แล้วนั่นเอง

ติดตามเรื่อง Regular Verb – Irregular Verb เพิ่มเติมที่นี่

Present Perfect ใช้ตอนไหน?

1. เหตุการณ์ที่เพิ่งจบไป หรือเพิ่งผ่านมาได้ไม่นาน 

เหตุการณ์ที่เพิ่งจบไป หรือเพิ่งผ่านมาได้ไม่นาน มักจะมาพร้อมกับ Just (เพิ่งจะ), Yet (ยัง), Already (ทำแล้ว) อยู่ด้วยในประโยค เพื่อแสดงรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เพิ่งจบไป หรือเพิ่งผ่านมาได้ไม่นานชัดเจนขึ้น

ตัวอย่างประโยค

  • My close friend has just arrived at the airport.
    เพื่อนสนิทของฉันเพิ่งจะมาถึงสนามบิน
  • John hasn’t received an email from you yet.
    จอห์นยังไม่ได้รับอีเมล์จากคุณเลย
  • Robert has finished his work already.
    โรเบิร์ตทำงานของเขาเสร็จแล้ว

2. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ในอดีตและมีผลอยู่จนถึงปัจจุบัน

เรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ในอดีต และยังเกิดผลอยู่ของเหตุการณ์นั้นอยู่ แม้ว่าการกระทำจะจบไปแล้ว

ตัวอย่างประโยค

  • I’ve known him for a long time.
    ฉนรู้จักเขามานานแล้ว (ทำความรู้จักกันในครั้งแรก แต่ก็ยังรู้จักกันมาตลอด)

3. เหตุการณ์ที่เป็นประสบการณ์หรือความทรงจำ

Present Perfect ยังสามารถใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นประสบการณ์ที่พบเจอมา ซึ่งจะคล้ายๆกับข้อ 2 คือยังคงเป็นประสบการณ์ติดตัวมาจนถึงตอนนี้

ตัวอย่างประโยค

  • I’ve been to Neuschwanstein castle two years ago.
    ฉันเคยไปปราสาทนอยชวานไตน์เมื่อ 2 ปีก่อน

4. ใช้กับการสมมุติ (แบบที่ 1) ว่าถ้าทำบางอย่างเสร็จ อีกเหตุการณ์จะเกิดขึ้น (If-Clause Type 1)

เหตุการณ์ที่เป็นการสมมุติโดยใช้รูปแบบประโยคเงื่อนไข (If-Clause) แบบที่ 1 โดยหากเหตุการณ์บางอย่างเสร็จสิ้นลงเรียบร้อย อีกเหตุการณ์นึงก็จะเกิดขึ้นตาม

ตัวอย่างประโยค

  • The pandemic of Covid-19 can be controlled if the government have had a quick decision.
    การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สามารถควบคุมได้ หากรัฐบาลมีการตัดสินใจที่รวดเร็ว

ทำแบบฝึกหัดเรื่องนี้


แบบฝึกหัดเรื่อง Present Perfect

ความยากของเนื้อหานี้
โอกาสในการออกข้อสอบ
ประโยชน์และการนำไปใช้