 
การแข่งขันฟุตบอลชายในมหกรรม กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งประเทศไทยรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพในปี 2568 มีความเคลื่อนไหวสำคัญเมื่อที่ประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ มีมติให้ โยกสนามแข่งขันของกลุ่ม A ที่มีทีมชาติไทยอยู่ร่วมกลุ่ม กลับมาเตะที่ “ราชมังคลากีฬาสถาน” เขตหัวหมาก กรุงเทพมหานคร หลังจากก่อนหน้านี้วางแผนให้ใช้สนามกีฬาติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา

เปลี่ยนแปลงสนามด้วยเหตุผลด้าน “ความปลอดภัย”
เดิมที ฟุตบอลชาย กลุ่ม A ซึ่งประกอบด้วย ไทย, ติมอร์-เลสเต และกัมพูชา ถูกกำหนดให้ลงแข่งขันที่สนามติณสูลานนท์ เนื่องจากราชมังคลากีฬาสถานต้องเตรียมพื้นที่สำหรับพิธีเปิดการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม ในการประชุมวาระ 4.7 ว่าด้วยการพิจารณาการแบ่งกลุ่มฟุตบอล ผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เสนอให้ย้ายกลับมาใช้ราชมังคลาฯ อีกครั้ง
เหตุผลสำคัญคือ มาตรการรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุด ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งจะเป็นสถานที่จัดพิธีเปิดและปิดอย่างเป็นทางการ การจัดฟุตบอลชายกลุ่ม A ที่นี่จะช่วยให้การดูแลความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวดและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
ที่ประชุมได้สอบถามความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ ทีมชาติไทยและคู่แข่งขันในกลุ่ม A กลับมาจัดการแข่งขันที่ราชมังคลากีฬาสถาน ตามข้อเสนอของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ปรับโปรแกรมใหม่ ขยับเตะ 4, 7 และ 11 ธันวาคม 2568
จากการปรับสนามแข่งขัน ทำให้กำหนดการแข่งขันกลุ่ม A ต้องขยับออกไปจากเดิม โดยโปรแกรมใหม่คือ
วันที่ 4 ธันวาคม 2568: ไทย พบ ติมอร์-เลสเต
วันที่ 7 ธันวาคม 2568: กัมพูชา พบ ติมอร์-เลสเต
วันที่ 11 ธันวาคม 2568: ไทย พบ กัมพูชา
ขณะที่กลุ่มอื่น ๆ ยังคงแข่งขันตามแผนเดิม ได้แก่
กลุ่ม B : เวียดนาม, มาเลเซีย, ลาว แข่งขันที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี
กลุ่ม C : อินโดนีเซีย, เมียนมา, สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ซึ่งเปลี่ยนจากเชียงใหม่กลับมาจัดที่ราชมังคลากีฬาสถานเช่นกัน
คำยืนยันจาก “อรรถกร” ซีเกมส์ครั้งนี้เน้นมาตรฐานและความปลอดภัยสูงสุด
ภายหลังการประชุม นายอรรถกร (ผู้แทนคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ) เปิดเผยว่า การปรับแผนครั้งนี้เป็นไปเพื่อให้การจัดการแข่งขันเป็นไปตามมาตรฐานสากล และคำนึงถึงความปลอดภัยของทุกฝ่ายเป็นสำคัญ
“ซีเกมส์ครั้งนี้ เราให้ความสำคัญกับทุกเรื่อง แต่สิ่งที่เน้นที่สุดคือ มาตรฐานการแข่งขันและความปลอดภัย การที่กลุ่ม A ซึ่งมีทีมชาติไทยกลับมาเตะที่ราชมังคลากีฬาสถาน ถือเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสม และช่วยให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น”
เขายังเสริมว่า ขณะนี้เหลือเวลาอีกประมาณ 40 วันก่อนการแข่งขันจะเริ่มต้น การได้ข้อสรุปเร็วจะช่วยให้สามารถแจ้งข้อมูลแก่ประเทศที่เข้าร่วมได้ทันท่วงที พร้อมยืนยันว่า “เชื่อว่าไม่มีปัญหาใด ๆ และทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผน”
บรรยากาศความคาดหวัง – “เจ้าภาพไทย” พร้อมสร้างสีสัน
การกลับมาเล่นในถิ่น ราชมังคลากีฬาสถาน นับเป็นข่าวดีของแฟนฟุตบอลชาวไทย เพราะนอกจากจะเป็นสนามหลักที่คุ้นเคยแล้ว ยังเอื้อต่อการเชียร์ของแฟนบอลในกรุงเทพฯ อย่างเต็มพลัง การได้ลงเล่นต่อหน้าแฟน ๆ นับหมื่นในบ้านเกิด ถือเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ทีมชาติไทยเดินหน้าคว้าเหรียญทองในซีเกมส์หนนี้
ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ไม่ได้มีเพียงการแข่งขันที่เข้มข้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงการบริหารจัดการอย่างรอบคอบของเจ้าภาพไทย ทั้งในด้านมาตรฐานสนามและมาตรการความปลอดภัย การกลับมาของทีมชาติไทยสู่ราชมังคลากีฬาสถานจึงไม่ใช่เพียง “การเปลี่ยนสนาม” แต่คือการวางรากฐานสู่การเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ที่พร้อมที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา.