
Noom Atthachai
A Government Teacher
Master | Chulalongkorn University
Bachelor | Silpakorn University
A Government Teacher
Master | Chulalongkorn University
Bachelor | Silpakorn University
Future Simple คือ การกระทำหรือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตทั่ว ๆ ไป สามารถมีโครงสร้างได้ 2 แบบ ได้แก่ will และ be going to ซึ่งจะใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน
สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่า Tenses คืออะไร สามารถติดตาม สรุป Tenses ฉบับรวมรัด เข้าใจง่าย ทั้ง 12 แบบ ในภาพรวมก่อนได้เลยครับ
การเลือกว่าจะใช้ will หรือ be going to ให้ดูที่ “เจตนา” ของคนพูด แม้ว่าในภาษาไทยจะมีความหมายว่า “จะ” เหมือนกันก็ตาม
คนพูดจะใช้ “will” เมื่อตัดสินใจว่า “จะทำสิ่งนั้นในขณะที่พูด ไม่ได้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้ามาก่อน”
ในขณะที่การใช้ “be going to” จะเป็น “การกระทำที่ตัดสินใจไว้แล้วล่วงหน้า และมีการวางแผนมาแล้วก่อนที่จะพูด” นั่นเอง
มักมีคำขยายบอกเวลาที่เป็นอนาคตอยู่ในประโยคด้วย เช่น next week, soon, later, tomorrow เป็นต้น
มักมีคำว่า Know, Expect, Probably, Think, Sure เป็นต้น
โดยโครงสร้างจะเป็นการแทนที่ will ด้วย be going to ซึ่งจะได้โครงสร้าง คือ
Atthachai Sriworabhat - Master’s of Education (M.Ed.) in Educational Management at Chulalongkorn University - Bachelor’s of Education (B.Ed.) in English Major at Silpakorn University